Tuesday, February 7, 2017

ไม่รับโทรศัพท์ ตัดลูกตัดแม่!!!

โอยยย เครียดได้อีก ... Deal ผู้สูงอายุ
แม่บอกว่าโทรหาเราหลายรอบ. แต่ไม่เห็นมี miss call ในเครื่อง ( กดโทรถูกรึป่าว?)
บางครั้งโทรมา ดัง 2 -3 ตู๊ดดด...รับปั๊บตัดสายทิ้งปุ๊บ ซะงั้น...( จะใจร้อนไปไหน)
เสร็จแล้วก็กดถี่ๆ สวนทางกันเข้าไป ติดบ้างไม่ติดบ้าง
อุตส่าห์โทรกลับ นึกว่าธุระอะไร ... เกือบทุกครั้ง คือแม่โทรหาเพื่อจะคุยเรื่องรายการทีวีโชว์ หรือไม่ก็เล่าข่าวอาชญากรรมมั่วๆ แล้วก็จะเป็นช่วงเวลาที่เรากำลังทำงาน.... คุยไม่นานก็งอน (สงสัยจะเหงา)
แย่ที่สุด คือ "โดนด่า" หาว่าเรารังเกียจแม่ถึงไม่รับโทรศัพท์ หรือกลัวแม่จะใช้ทำงาน พูดจาทำร้ายจิตใจได้อีก. แถมร้องไห้ทิ้งท้าย ( บาปกรรมจริง ไม่ได้อยากให้แม่ร้องไห้T T) ทิ้งท้ายไว้ว่าถ้าโทรแล้วเราไม่รับอีกจะไม่โทรหาอีกเลย ( แนวข่มขู่).และจะถือว่า เราไม่อยากรับโทรศัพท์แม่ และจะไม่ถือว่าเราเป็ลลูก (ตัดลูกตัดแม่ ว่างั้นเหอะ)

 ..... เฮ่อออ................. >~<.

สรุปแม่ฉันป่วย หรือว่าปรกติของผู้ชรา?

ดราม่าของ Baby Boommer กับ GenX และ Gen Alpha


GenX  - หม่าม๊าตัวเล็กสอบไม่ติดนะ


Baby Boommer --  อีกแล้วเหรอ? ไม่เป็นไรสอบต่อไป สอบนี่ มันยากไม่ใช่ขายขนม


Gen Alpha - ลั้นลา ลั้นลา


GenX  - มีเพื่อนของเจ้าตัวเล็กสอบไม่ติด พอเห็นว่ามีเพื่อนคนอื่นสอบติด เค๊าร้องไห้เลย ถามใหญ่ทำไมไม่ได้


Baby Boommer  - (หันไปถามหลาน) แล้วลูกร้องไห้ไหม?


Gen Alpha - หนูไม่ร้องไห้หรอก  เพื่อนที่ติดเค๊าเก่งและโชคดี หนูอาจจะโชคร้ายนิดหน่อยนะ (ยิ้มกริ่ม)


GenX  -  ใช่โชคร้ายไปหน่อย แต่.. ไม่เป็นไรเนอะ สอบไม่ติดไม่ได้หมายความว่าลูกจะไม่เก่ง ลูกแม่เก่งจะตาย (ลูบหัว)


Gen Alpha - ยิ้มแฉ่งกอดแม่ (สงสัยชอบแม่ชม+ลูบหัว)


Baby Boommer - (บ่นๆๆ) สอนแบบนี้ลูกได้งัย เด็กที่ร้องไห้หนะเก่ง มีจิตสำนึก ดูลูกมึงสิ ยังร่าเริงอยู่ได้
สอนให้เป็นสิ ชมไปทำไม? สอบไม่ได้ คนเก่งถึงสอบติด เพราะคอยถือหางแบบนี้สิ ถึงได้สอบไม่ติด ควรสอนให้เด็กขยัน มีมานะใจรู้มั๊ย
โรงเรียนก็เลือกที่เค๊าเข้มงวดจะได้เก่งๆ เลือกโรงเรียนอะไรก็ไม่รู้อ่านเขียนไม่ได้จะสอบได้งัย



GenX - ..... เงียบไว้ก่อน....... (เซ็ง... นึกในใจ สิ่งที่ถูกต้องคือ อยากเห็นหลานร้องไห้เสียใจเหรอ ?)


Baby Boommer - (หันไปบอกหลาน)  เราเองก็เหมือนกัน สอบไม่ติด ก็พยายามหน่อยอย่ามัวแต่เล่น


Gen Alpha -  ก็พยายามแล้วนี่นา (ทำหน้ามุ่ยใส่อาม่า)


GenX - ไม่เป็นไรพยายามก็ดีแล้ว เหลือสอบอีก 1 โรงเรียน โอเค๊?


Gen Alpha - โอเค


GenX - ถ้าคราวนี้สอบไม่ติดทำยังงัย?


Gen Alpha -  ก็สอบไปเรื่อยๆจนกว่าจะติดงัย


GenX -  แล้วถ้าไม่มีให้สอบ จะทำงัย? ไม่ต้องเรียนอยู่บ้านกับอาม่า?


Gen Alpha - ไม่เอา หนูไม่อยากเป็นเด็กโง่ .... เดี๋ยวหม่าม๊าก็หาที่เรียนให้หนูเองแหละ -*-


GenX -  .... ลูกเราคงไม่เครียดสินะ.... ^__^"


----- จบ -------

Wednesday, February 1, 2017

เด็กทางเลือกแข่งอะไรก็แพ้ตลอด

คุุณแม่ที่ลูกเรียนทางเลือกครึ่งทางท่านนึงให้ความคิดเห็นว่า "เด็กทางเลือกคือ loser" แข่งอะไรก็แพ้ตลอด ส่วนใหญ่เป็นเด็กที่มีเงินแต่ไม่มีที่ไป เรียนไม่เก่ง ทำอะไรไม่ได้ถึงไปเรียนเพื่อหาวิถีตัวเองว่าทำอะไรได้ ... เ่อ่อ...ฟังแล้วอึ้ง
แสดงว่าแม่ไม่อินเลยกับการเรียนสายนี้
 
"แข่งอะไรก็แพ้ตลอด" - อาจจะจริงบางส่วนเพราะเด็กทางเลือกแข่งกับตัวเอง ไม่ได้แข่งกับมาตราฐานสังคม บางครั้งก็ไม่ได้ถนัดในสิ่งประเมิน
 
หากใครเคยดูคลิปๆนึงที่ทำประชดระบบการศึกษาในอเมริกา
มีคำถามมากมาย ระบบการศึกษาสอนเด็กเหมือนๆกัน วัดผลเหมือนๆกัน ตัวอย่าง เช่น ระบบการเรียนการสอนเป็นวิถีทางการปีนต้นไม้ แต่ลูกของคุณเป็นปลาทอง ปลาทองปีนต้นไม้ไม่ได้ แล้วนั่นจะสรุปว่าปลาทองโง่ใช่ไหม? ทำไมไม่ให้ลิงที่ปีนต้นไม้เก่งๆ ไปดำน้ำแข่งกับปลาทองบ้างหละ?
เด็กทุกคนต้องเป็นลิงใช่มั๊ยถึงจะเรียกว่าเก่ง?
 
แข่งสอบเข้าบางแห่ง ต้องอ่านข้อสอบเอง ที่โรงเรียนทางเลือกไม่ได้สอนเน้นอ่านเขียนเด็กไม่ได้ฝึกฝนจะอ่านออกเขียนได้ยังลำบาก แล้วจะให้อ่านข้อสอบเองได้อย่างไร? สอบไม่ติด จึงเป็น" เรื่องปรกติ" ของเด็กทางเลือกที่ไม่ได้กวดวิชาเพิ่ม แต่จะสามารถสรุปได้หรือว่าเด็กทางเลือกโง่?
 
คุณแม่ท่านนั้นอาจจะมองข้ามความสามารถของลูกตัวเองไป หวั่นไหวกับกระแสสังคม เค๊าต่างห่างที่ทำให้ลูกเป็น loser ตัวจริง ย้ายไปเรียนในระบบกลางทางเพราะเชื่อว่าการรู้จักคิด รู้จักตัวเองเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น  การอ่านออกเขียนได้ ท่องสูตรคูณได้เร็วๆ ตั้งแต่อนุบาลจำเป็นกว่าจริงหรือ? โดยทั่วไปเด็กสามารถอ่านออกเขียนได้ ทันกันทุกคนเมื่อเรียนอยู่ชั้นประถม 2-3 จะรีบเร่งโตเป็นไก่ซีพีไปทำไม?
 
ไอวี่เอง ใจจริงแม่ก็อยากให้เรียนทางเลือกต่อไปยาวๆ แต่เรื่องจริงอีกนั่นแหละที่ โรงเรียนทางเลือกเป็นโรงเรียนสำหรับเด็กมีเงินเพราะค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเพราะเรียนทางเลือกต้องส่งเสริมการเรียนรู้หลายมิติจากประสบการณ์จริง ไม่ใช่ท่องแต่ตำรา ถึงแม้จะไม่แพงเท่าอินเตอร์ หรือนานาชาติ มันก็หืดขึ้นคอสำหรับพนักงานประจำเหมือนกัน ดังนั้นการผันสู่โรงเรียนในระบบ ก็คงเป็นเวลาอันสมควรแล้วเหมือนกันสำหรับครอบครัวเรา
 
ท้ายสุดก็ขอให้กำลังใจคนที่มีกำลัง และคิดจะส่งลูกไปทางเลือก ถ้าไหวก็ไปเถอะ ไปให้สุดกำลังเท่าที่เราทำได้แล้ว ผลลัพท์ปลายทางนั้นคุ้มค่าแน่นอน