Tuesday, July 20, 2010

กลางสัปดาห์ ที่ต้องอยู่ให้ได้ / วิธีรับมือโรคซึมเศร้า ระหว่างตั้งครรภ์

วันนี้ไอวี่ตื้นเช้า ดิ้นนานเป็นพิเศษ
ลูกจะรู้รึเปล่าว่าคุณพ่อจะไปชลบุรี ถึงดุ๊บๆ ปลุกแม่?
ติดรถป้าหยิมมาทำงาน ป้าหยิมเองก็กำลังมีน้อง เป็นเพื่อนไอวี่เลย
ตามมาติดๆประมาณ 2-3 เดือน

แม่คิดถึงพ่อจังเลยลูก
กลัวจังว่าจะหงอยเหงาหดหู่ กลัวน้ำตาจะไหล
ตอนนี้ยังทำใจได้อยู่ เพราะเพิ่งเจอกันเมื่อเช้า
เราต้องอยู่กัน ให้ได้ใช่ไหม? แค่ 2 วันเอง
(แต่พ่อไป ตจว. บ่อยจัง)

อากาศในออฟฟิศ เย็นกำลังดี
งานแม่ไม่ค่อยจะมีให้ทำ นั่งเล่นเน็ทเรื่อยๆ
ส่วนน้านก ก็ง่วนกับการหาอะไรมาทำ (น้านกนี่ขยันจริงๆ ^^)
ไอวี่โตมาต้องขยันแบบน้านก กะอาม่านะ อิอิ

แม่สั่งซื้อชุดหลอดไฟสังฆทานมาด้วยนะ ไว้พ่อกลับมา
เรา 3 คนไปทำบุญเข้าพรรษากัน ให้หลอดไฟสว่างไสว
ให้ไอวี่ฉลาดหัวไบร์ท ชีวิตสดใสเหมือนแสงไฟนะจ๊ะ *-*

**************************************
โรคซึมเศร้ากับหญิงตั้งครรภ์

เป็นอีกหนึ่งงานวิจัยที่โยงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างสภาพอารมณ์ของผู้ เป็นแม่ในขณะตั้งครรภ์กับพัฒนาการของทารกในครรภ์ เมื่อพบว่า หากระหว่างที่ตั้งครรภ์นั้น ผู้เป็นแม่ประสบกับภาวะเครียด เศร้า หดหู่บ่อย ๆ จะส่งผลให้ทารกในครรภ์มีโอกาส "ก้าวร้าว" ในช่วงวัยรุ่นสูงกว่าเด็กที่แม่มีสภาพจิตใจร่าเริงได้




ไม่เพียงเท่านั้น ผลกระทบที่เกิดจากความหดหู่ของแม่ตั้งครรภ์เมื่อส่งต่อไปยังลูกทำให้ลูกมี พฤติกรรมก้าวร้าวแล้ว ก็ยังทำให้เด็กกลุ่มนี้มีโอกาส "หดหู่-เศร้าหมอง" ในอนาคตเมื่อตนเองต้องตั้งครรภ์เป็นแม่คนด้วยเช่นกัน



ศาสตราจารย์เดล เอฟ. เฮย์ (Dale F. Hay) นักจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัย Cardiff ผู้ทำการศึกษาวิจัยในประเด็นดังกล่าวได้ระบุว่า งานวิจัยชิ้นนี้ได้ทำการเก็บข้อมูลจากครอบครัวชาวอังกฤษที่อาศัยอยู่ในแหล่ง ชุมชน ผ่านการสัมภาษณ์ โดยเป็นเด็กวัยรุ่นชาวอังกฤษจำนวน 120 คน ในช่วงที่เด็กเหล่านั้นอายุ 4, 11 และ 16 ปี รวมถึงพ่อแม่ของพวกเขา ซึ่งในจำนวนนี้พบว่า แม่ของเด็กถึง 1 ใน 3 หรือเท่ากับ 40 คนมีอาการซึมเศร้าระหว่างตั้งครรรภ์



นักวิจัยระบุว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะครอบครัวเหล่านี้อาศัยอยู่ในเขตเมืองที่มีความจอแจ และบางแห่งก็เป็นแหล่งเสื่อมโทรม จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่อธิบายได้ว่า เพราะเหตุใดจึงทำให้ผู้เป็นแม่เกิดความรู้สึกไม่สบายใจไม่สบายกายในระหว่าง ตั้งครรภ์ได้



นอกจากนั้น จากการสัมภาษณ์เด็กทั้ง 120 คน ศาสตราจารย์เฮย์ และทีมงานระบุว่า เด็กกลุ่มที่มารดามีภาวะซึมเศร้าระหว่างตั้งครรรภ์ เมื่อเติบโตเข้าสู่วัยรุ่นมีโอกาสจะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวได้มากกว่าเด็กคน อื่น ๆ ถึง 4 เท่า ในขณะที่เด็กวัยรุ่นซึ่งขณะตั้งครรภ์ ผู้เป็นแม่มีอารมณ์ร่าเริงมีความเสี่ยงที่จะเกิดพฤติกรรมก้าวร้าวได้น้อย กว่า โดยเธอยังได้อ้างถึงงานวิจัยในอดีตที่มีการศึกษาเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลง ทางอารมณ์ของแม่ตั้งครรภ์ว่ามีผลกระทบต่อพัฒนาการทางสมองของทารกในครรภ์ขึ้น มากล่าวด้วย อย่างไรก็ดี งานวิจัยชิ้นนี้ของเธอ ไม่ได้นำเรื่องยีนเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด



"จากงานวิจัยชิ้นนี้ ได้ชี้ให้เห็นว่า ผู้หญิงที่เคยมีประวัติด้านพฤติกรรมก้าวร้าว มีโอกาสจะเป็นโรคซึมเศร้าได้เมื่อพวกเธอตั้งครรภ์ เธอจึงเป็นคุณแม่กลุ่มเสี่ยงที่ควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษหากจะให้กำเนิด ทารก" ศาสตราจารย์เฮย์กล่าวปิดท้าย



เพื่อป้องกันไม่ให้ภาวะหดหู่ ซึมเศร้าต้องทำร้ายคุณแม่ตั้งครรภ์ดังกล่าว ทีมงาน Life & Family จึงได้มองหาแนวทางป้องกัน-แก้ไขจาก womenhealth มาฝากกันค่ะ ซึ่งได้แก่



1. จงเลือกเป็นผู้ควบคุมชีวิตของตัวเอง

เริ่มจากการสำรวจตรวจสอบรูปแบบการใช้ชีวิตของคุณ ด้วยการจดสิ่งที่คุณทำในแต่ละวันลงในกระดาษ ทั้งงานบ้าน งานที่ออฟฟิศ และงานอื่น ๆ จากนั้นก็พิจารณากิจกรรมเหล่านั้นด้วยใจที่เป็นธรรมสักนิดว่ามันเป็นกิจกรรม ที่ทำให้คุณรู้สึกพอใจหรือไม่ คุณใช้เวลาหมดไปกับสิ่งเหล่านั้นมากเกินกว่าจะหันมาสนใจตัวเอง หาเวลาให้ตัวเองหรือไม่ หรือมันเป็นงานที่คุณทำแล้วรู้สึกภาคภูมิใจกับมันหรือไม่



หากผลออกมาเป็นไม่ ก็ถึงเวลาที่คุณต้องตัดบางสิ่งออก และหันมาใส่ใจกับการให้เวลาตัวเองด้วยการเลือกทำกิจกรรมที่ตนเองชอบ สนใจ และมีความสุขแทน ซึ่งคุณก็จะได้เวลาบางช่วงกลับคืนมา เช่น ได้นอนหลับแต่หัวค่ำขึ้น ได้อ่านหนังสือที่มีประโยชน์สำหรับแม่ตั้งครรภ์มากขึ้น ฯลฯ



2. ยอมรับว่ามีบางอย่างที่คุณควบคุมไม่ได้เหมือนกัน

แม้ว่าจะผ่านข้อแรกมาด้วยการบอกว่า ให้คุณกลับขึ้นมาเป็นผู้ควบคุมชีวิตตัวเอง แต่กระนั้น การตั้งครรภ์ก็มีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่สามารถควบคุมได้อยู่เช่นกัน เช่น อาการแพ้ท้อง ความรู้สึกหงุดหงิด การปวดหลัง ปวดขา นิ้วชา หรือการนัดหมายกับแพทย์เพื่อตรวจครรภ์ ดังนั้น ในจุดที่ควบคุมไม่ได้ ก็ยอมรับกับตัวเองว่าควบคุมไม่ได้จะเป็นผลดีต่ออารมณ์และความรู้สึกมากกว่า การปฏิบัติตัวในเชิงต่อต้าน



3. จงเป็นผู้ประเมินความรู้สึกตัวเอง

ไม่ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสามี แพทย์ เพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงาน หรือพ่อแม่ มาเป็นผู้ประเมินความรู้สึกของคุณ เพราะคุณเองคือผู้ที่ทราบว่าคุณต้องการอะไร งานที่คุณทำหนักเพียงใด คุณพักผ่อนเพียงพอหรือไม่ รับประทานอาหารน้อยไปหรือเปล่า เพราะทั้งหมดนี้คือ การใช้ชีวิตของคุณเองในระหว่างตั้งครรภ์ จากนั้น จึงค่อยนำผลที่ประเมินได้มาขอคำปรึกษา-ความช่วยเหลือจากแพทย์ สามี หรือคนรอบข้างถึงวิธีการที่เขาเหล่านั้นจะช่วยเหลือคุณให้พ้นจากภาวะดัง กล่าว



4. อย่าเก่งคนเดียว..หาเวลาพักบ้าง

หากงานที่ทำไม่ใช่งานเฉพาะเจาะจงเช่น งานด้านกฎหมาย แต่เป็นงานทั่วไปในองค์กร การแจ้งหัวหน้างานเกี่ยวกับงานที่คุณทำได้ และไม่ควรทำก็เป็นเรื่องที่ดี เพื่อที่จะได้มีการจัดงานใหม่เหมาะสม และคุณจะได้ไม่เครียดมากจนเกินไป และเมื่อมีงานที่เหมาะสมแล้ว คุณอาจหาเวลาว่างเพิ่มเติมเพื่อตัวเอง กรณีนี้ต่างจากการพักเมื่อมีเวลาว่าง แต่หมายถึงการหาเวลาเพื่อการพักผ่อน หรือทำในสิ่งที่มีความสุขสำหรับตัวเองโดยเฉพาะ เช่น อ่านหนังสือ ดูหนัง ทั้งนี้คุณต้องไม่ต้องรู้สึกผิดที่มีเวลาดังกล่าวด้วยนะคะ



5. เขียนบันทึกความรู้สึกของตัวเอง

คล้าย ๆ กับการคุยกับตัวเอง แต่เป็นการเขียนมันลงบนกระดาษ หรือบล็อก ฯลฯ วิธีการนี้เป็นอีกหนึ่งหนทางที่จะช่วยให้คุณพบกับวิธีจัดการกับความรู้สึก และช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้

Monday, July 19, 2010

ผ่านมาอีก 1 วัน

ช่วงนี้เข้าหน้าฝนแล้ว อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ
คุณพ่อเป็นหวัด .... แม่ก็กลัวจะติดอยู่เหมือนกัน
วันนี้ตื่นมาเมื่อยเนื้อตัว ไม่ค่อยสดชื่น (ไม่รู้ติดหวัดพ่อมาป่าว)

สัปดาห์นี้ไอวี่เต้นดุ๊บๆ ในท้องของแม่ วันละหลายรอบเชียว
แม่รู้สึกดีที่มีหนูอยู่ในท้อง ^ ^

ช่วงนี้อาการแพ้ท้องเหลือแค่ช่วงเย็นๆ
(อ้วกเอาวุ้นเส้นผัดไทย ออกหมดพุงเมื่อเย็นวันอาทิตย์)
เฮ้อ... ยังกินอาหารลำบาก ขนาดคิดว่าค่อนข้างจะดีขึ้นแล้วนะนี่

พุธนี้คุณพ่อจะไป ตจว. อีกแล้วลูก แม่รู้สึกเหงาๆยังงัยก็ไม่รู้
เรา 2 คน จะต้องไปนอนบ้านอาม่า 2 คืน อีกแล้ว
หวังว่าแม่คงไม่เป็น Mama Blue  นั่งน้ำตาร่วงเหมือนวันก่อน

Thursday, July 15, 2010

อากาศเย็นๆวันฝนตก

เมื่อวานอารมณ์อ่อนไหว คิดถึงคุณพ่อ น้ำตาร่วงระหว่างกินข้าวเย็น
อาม่าสวดใหญ่เลย เหอๆๆๆ ... ก็แหม โฮโมนมันพลุ่งพล่านนี่นา

2-3 วันนี้งานแม่ไม่ค่อยเยอะ
มีเวลาอัพเดทบล็อก คุยกะหนู
ฝนตกหนักมา 2 วันแล้ว อากาศเปลี่ยน
อุณหภูมิในออฟฟิศ เย็นยะเยียบ -.,-   ฮัดดด..เช่ย!
แม่เริ่มปวดหัวเหมือนจะเป็นไข้ หนาวสั่นเป็นระยะ

หนูเองก็เต้นดุ๊บๆ อยู่ในท้อง ตั้งแต่ตี 4
ปลุกแม่ เพราะตื่นจากเสียงอาม่ารึป่าวนะ?
แม่แก่ตัวแล้วจะขี้บ่นเหมือนอาม่ารึป่าว?

คุณพ่อจะกลับจากนครนายกแล้ววันนี้
ดีใจมั๊ยคะ ได้เจอคุณพ่อแล้ว (ยังกะไปหลายวันแหนะ)

Wednesday, July 14, 2010

วันเหงาๆ ที่พ่อไม่อยู่

วันนี้คุณพ่อของหนูไปทำงาน ตจว. ค้างคืนที่โน่น
เราจะไปค้างบ้านอาม่ากัน

ช่วงกลางวันฝนตก ฟ้าร้อง
แอร์ใน บริษัทแม่เย็นเจี๊ยบเลย ...
คิดถึงคุณพ่อป่าวคะ? แม่คิดถึงคุณพ่อจังเลย!
ช่วงเวลาท้องๆ อารมณ์อ่อนไหวเป็นพิเศษ

เมื่อวานเย็นอ้วกอีกแล้ว เล่นเอาราดหน้าเจ้าประจำออกหมด
มาลุ้นกัน เย็นวันนี้ กับข้าว อาม่า แม่จะแพ้จนอ้วกอีกหรือเปล่า?

Monday, July 12, 2010

สัปดาห์สบายๆ 20 weeks

แป็บเดียวก็ตั้งท้องได้ 5 เดือนแล้ว
เสาร์-อาทิตย์ ที่ผ่านมาแม่รู้สึกมีแรงมากขึ้น พาหนูไปตักบาตรกับคุณย่า ว่ายน้ำกับคุณพ่อ
แม่ตัดผมแล้ว โล่งสบายหัวมากขึ้น หลายคนบอกว่าดูสดใสขึ้นไม่โทรมเหมือนตอนผมยาว

คุณน้าปอนด์ส่งหนังสือคู่มือสำหรับแม่มากองใหญ่ ต้องขอบใจที่เป็นห่วง
คุณน้าแป้งก็ให้กระเป๋าอุ้มเด็กมาไว้สำหรับอุ้มหนู


ช่วงนี้ Ivy ดิ้นตอดท้องแม่ ดุ๊บๆ บ่อยๆ ฟังเพลงคลาสสิคทุกวันเลย
ชอบป่าวน๊า? เค๊าว่ามันช่วยพัฒนาสมองลูกด้วยหละ

เป็นความรู้สึกที่ดี+ประหลาด ที่รู้ว่ามีใครอีกคนอยู่ในท้อง
พ่อมักจะยิ้มกริ่มเวลาเอามือจับท้องแม่แล้วคลำพบการดิ้นของหนู

อาการแพ้ท้องลดลง แต่ก็ยังพะอืดพะอมอยู่
พรุ่งนี้พ่อจะไป ต่างจังหวัดอีกแล้ว T T เหงาไหมจ๊ะพ่อไม่อยู่
เดี๋ยวเราไปนอนบ้านอาม่ากันนะ
อาม่าคงดีใจที่หลานไปค้างด้วย ^ ^

Wednesday, July 7, 2010

จู่ๆก็ร้องไห้ mama blue

เมื่อวานตอนเย็นจู่ๆอ้วกเป็นน้ำเลย อาหารเที่ยงถึงเย็นออกมาหมด
 สงสัยเพราะลืมกินยา หรือไม่ก็ขนมจีนตอนเที่ยงไม่ย่อย

สงสารลูก แม่ไม่มีอะไรให้กิน อึดอัดจนร้องไห้ T T

เที่ยงวันนี้ก็เป็นอีก พอรู้สึกพะอืดพะอม บ่อน้ำตาก็ตื้นขึ้นมาซะงั้น
คิดถึง คุณพ่อ อยากกลับบ้านเรา จู่ๆน้ำตาก็ไหลไม่ยอมหยุด
เพื่อนๆที่ทำงานแม่ตกใจกัน ว่าร้องไห้ทำไม

น่าจะเป็นเพราะโฮโมนพุ่งพล่าน ...


พรุ่งนี้ก็จะครบ 20 สัปดาห์แล้ว ที่ลูกเกิดมา ^_^
หนูต้องเป็นเด็กดี และแข็งแรง
ให้แม่ได้ชื่นใจ ......นะคะ

ปล. ถกเถียงชื่อของหนูกันกะพ่อว่าจะใช้ชื่ออะไรดี
ระหว่าง ว่าน - ไอวี่ - เอลฟ์


รู้สึกพ่อจะเลือก ไอวี่นะ
มาจาก อักษร ภาพด้านล่าง
พ่อเราโรแมนติกป่าว? อิอิ

Monday, July 5, 2010

อัลตราซาวน์ครั้งที่ 2

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (4 กค. 53) คุณหมอนัดตรวจครรภ์
ตื่นเต้นมากเลย ที่จะได้รู้ว่าหนูเป็น ผู้ชาย หรือ ผู้หญิง

อันที่จริงแม่คาดไว้ว่าลูกจะเป็นผู้ชายเพราะ
แม่ผื่นขึ้น สิวขึ้นเต็มหน้า ออกโทรมๆ แต่ก็ไม่แน่ใจเพราะท้อง กลมๆ *0*
เค๊าว่าท้องกลมๆจะได้ลูกสาว ...

วันนี้ได้รู้แล้ว

คุณหมอบอกว่าหนูเป็นลูกสาว จ๊ะ *-* /
ออกจะผิดคาดเล็กน้อยแต่ไม่ได้ผิดหวัง  เพราะลึกๆแล้วแม่ก็อยากได้ลูกสาวมากกว่าหุหุ
เพราะหวังว่าโตขึ้น เราจะสนิทกันมากกว่า

สุขภาพทั่วไปของหนูแข็งแรงสมบูรณ์ดี ตัวยาว 23 CM.แล้ว
คุดคู้ซะตัวกลมเชียว

วันอาทิตย์นี้ก็เป็นวันที่เหนื่อยอีกวันเพราะ แม่กะพ่อไปเดินช๊อปปิ้ง
ชุดและเครื่องใช้ของหนูมา โดนพ่อแซวว่า มีแต่สีชมพู *0*
ก็หนูเป็นลูกสาวนี่นา ใช่ปะ อิอิ

จริงๆแม่ก็ชอบสีชมพูมากกว่าสีฟ้าอยู่แล้วด้วย งานนี้หมดไปหลายพันอยู่
เมื่อไหร่หนูจะออกมานะ แม่อยากสวมชุดสีชมพูให้หนูจังเลย ^ ^

ปล. โฮโมนพุ่งพล่านอยากร้องไห้ จู่ๆช่วงนี้คิดถึงอาม่า อาก๊องบอกไม่ถูก
ไม่รู้เพราะเห็นหนูโตขึ้นทุกวัน หรือกลัวกรรมตามสนอง (แม่ทำแสบกะอาม่าไว้เยอะ เหอๆๆ)