Thursday, April 22, 2010

8 สัปดาห์ แพ้อย่างต่อเนื่อง

สัปดาห์ที่ 8 ย่างเข้าสัปดาห์ที่ 9 แล้ว ...

คุณแม่ แพ้ท้องค่อนข้างมาก เริ่มแพ้ตั้งแต่ต้นเดือน
อ้วกทุกวัน วันละหลายๆรอบ เบื่ออาหาร และเหม็นกลิ่นของทอดอมน้ำมัน
หมอให้ยาช่วยลดอาการคลื่นไส้มา เหมือนช่วยได้เล็กน้อย
เป็นช่วงที่ลำบากทีเดียวลูกจ๋า T T

น้ำหนักลดลงไป 2 กิโลกรัม
อากาศก็ร้อนจนจะเป็นลม
สิวเห่อเต็มหน้าผาก
ผิวคล้ำ ขึ้น .....


คุณพ่อไปทำงาน ต่างจังหวัด 3 วัน เหงาจังเลย
วันนี้คุณพ่อจะกลับมาหาแล้วนะ แต่คงดึกๆ แล้วเราคงได้กลับบ้านกัน

ปล. 3 วันนี้ไปอยู่บ้านอาม่า กัน

***********************************************

บทความจาก กระปุก

ยิ่ง แพ้ท้อง ยิ่งช่วยปกป้องเจ้าตัวน้อย (M&C แม่และเด็ก)




บ่อยครั้งอาการแพ้ท้องมักสร้างความทรมานและรำคาญให้คุณแม่ แต่คนโบราณมีความเชื่อว่า ยิ่งแพ้ท้องมาก ยิ่งเป็นสัญญาณว่าลูกที่กำลังจะเกิดมา เป็นเด็กที่มีร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์ ซึ่งงานวิจัยชิ้นหนึ่งก็ออกมาสนับสนุนความเชื่อนี้ จากการศึกษาวิจัยหญิงตั้งครรภ์หลายพันคน พบว่า แม่ตั้งครรภ์ที่มีอาการแพ้ท้อง ร่ายกายจะปกป้องตัวเองและทารกจากอันตราย ที่เกิดจากการติดเชื้อของทางเดิน อาหารต่าง ๆ ที่ทานเข้าไป รวมถึงสารเคมีต่าง ๆ ในอาหาร ได้ดีกว่าผู้หญิงทั่วไป



โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ เป็นช่วงที่ทารกมีการเจริญเติบโตของ แขน ขา และระบบประสาทส่วนกลางของทารก ซึ่งอาการแพ้อาหารบางอย่าง หรือแพ้สิ่งที่ไม่เคยแพ้ จะช่วยสร้างระบบป้องกันการติดเชื้อจากธรรมชาติ และไม่เป็นอันตรายต่อทารก



นอกจากนี้ ยังได้มีการศึกษาวิจัยแม่ตั้งครรภ์ที่คลอดลูกออกมาปกติสมบูรณ์ กับแม่ตั้งครรภ์แล้วแท้งลูก เป็นจำนวนหลายพันคน พบว่า แม่ที่แพ้ท้อง มักมีโอกาสประสบความสำเร็จคลอดลูกออกมาสมบูรณ์แข็งแรงกว่าแม่ ที่ไม่มีอาการแพ้ท้องขณะตั้งครรภ์ แต่สำหรับคุณแม่คนไหนที่โชคดี ไม่มีอาการแพ้ท้อง ก็ไม่ต้องวิตกกังวลไป ถือว่าเป็นความโชคดีไปค่ะ



ส่วนใหญ่แล้วอาการแพ้ท้องจะเกิดขึ้นในช่วง ประมาณเดือนที่ 2 ของการตั้งครรภ์คือประมาณสัปดาห์ที่ 6 ขึ้นไป แต่หลังจากเดือนที่ 3 และ 4 ฮอร์โมน HCG เริ่มลดลง อาการแพ้ท้องก็จะค่อย ๆ หายไปด้วยค่ะ



นอกจากนี้สภาพจิตใจและอารมณ์ของแม่เอง ก็มีส่วนทำให้เกิดอาการแพ้ได้ท้องได้เช่นกัน ว่ากันว่าคุณแม่คนไหนที่มีจิตใจอ่อนไหว อารมณ์แปรปรวน มักมีอาการแพ้ท้องมากกว่าแม่ที่อารมณ์มั่นคง จิตใจเข้มแข็ง การดูแลเอาใจจากคนใกล้ชิด ก็เป็นสิ่งที่คุณแม่ท้องต้องการมากกว่าสิ่งใด โดยเฉพาะการเอาอกเอาใจจากคุณสามี เพราะคนท้องมักน้อยใจและหงุดหงิดโดยไม่ทราบสาเหตุ และไม่รู้ตัวค่ะ



และเราก็มีเทคนิคบรรเทา อาการแพ้ท้องมาแนะนำคุณแม่ด้วยนะคะ



ดื่มน้ำขิงอุ่น ๆ สักแก้วตอนเช้า จะช่วยให้อาการแพ้ท้องทุเลาลงได้ค่ะ



เวลาทานข้าว อย่าทานให้อิ่มมาก ให้ทานทีละน้อย ๆ แต่แบ่งเป็นหลายมื้อ ทานเสร็จแล้วก็เดินย่อยสักหน่อย อย่านั่งหรือนอนในทันที



หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกแป้ง ของมัน ของแสลง ของคาว



ควรทานอาหารที่อ่อน ๆ ย่อยง่าย เพราะตอนท้องฮอร์โมนจะสูงขึ้น ทำให้ลำไส้ทำงานช้าลงและย่อยช้า ทำให้ท้องอืดง่าย และทำให้รู้สึกอยากอาเจียนได้



หลังทานข้าวไม่ควรแปรงฟันทันที เพราะแปรงสีฟันที่แหย่เข้าไปในปาก อาจทำให้รู้สึกอาเจียนได้



ก่อนนอนควรพยายามทานอะไรเบา ๆ สักหน่อย เช่น โยเกิร์ต นม เพื่อจะได้ช่วยป้องกันอาการแพ้ท้องหลังตื่นนอนตอนเช้า



พยายามอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศ ถ่ายเท จะได้หายใจเต็มปอด และไม่เกิดอาการวิงเวียน



พยายามอย่าเครียด ทำจิตใจให้สบาย อย่าคิดเล็กคิดน้อย จำไว้ว่าอารมณ์มีผลต่ออาการแพ้ท้องได้ค่ะ

Thursday, April 8, 2010

วันนี้ "บวม"

ตื่นตอนเช้าด้วยอาการ "บวม"


ตาบวม - จมูกบวม และหน้าบวม ใครๆก็ทักว่าวันนี้โทรมจัง

เหมือนคนร้องไห้ทั้งคืน แล้วตื่นมาตอนเช้าแบบเบลอๆ



สงสัยเมื่อคืนอ้วกมากไปหน่อย และ มีไข้หนาวสั่นอ่อนๆ > <"

My -- God --- ฉันจะต้องอยู่ในสภาพนี้อีกนานเท่าไหร่?



2-3 วันนี้คุณแม่แพ้ท้อง มากจัง ทานอาหารอะไรก็ไม่ค่อยได้ เหม็นหืน

โดยเฉพาะพวกหวานจัดๆ และ อมน้ำมันเยอะๆ ขนาดยำหมูแซ่บ ยังขย้อนออกแทบไม่ทัน



ในปาก มีรสฝาดๆลิ้น และ พะอืดพะอมอยู่ตลอดเวลา

อ้วกออกทั้งน้ำลาย น้ำย่อย น้ำมูก และน้ำตา

ไม่แปลกที่จะดู จมูกเบ่ง ตาบวม เหมือนคนเพิ่งร้องไห้มา T T



เรื่องลำบากสำหรับช่วงนี้คือ หาของกิน ยังงัยให้กินได้อย่างมีความสุข

เพราะทุกอย่างดูเหมือนไม่น่ากินไปหมด

Sunday, April 4, 2010

โรคหวัด และ อาการแพ้ท้อง morning sickness and Cold during early-pregnancy

หลังจากป่วยเป็นไข้หวัด คออักเสบ  มา 1 สัปดาห์ ยาใกล้หมดแล้ว แต่ยังไม่หายซะทีเดียว
ถูกหมอดุด้วยว่าให้ระวังตัวมากกว่านี้อย่าคลุกคลีกับ คนเป็นหวัด เพราะคนตั้งครรภ์จะมีภูมิคุ้มกันลดลง
เวลาป่วยจะเป็นหนักและรักษานานกว่าปรกติ

ยาที่ให้ทานได้แค่กลุ่มนี้กลุ่มเดียว เป็นยาฤิทธิอ่อน
ถ้าเป็นบ่อยทานบ่อยแล้วดื้อยาขึ้นมา ก็จะทานตัวอื่นไม่ได้เพราะมีผลกระทบต่อเด็ก -*-

และอาการแพ้ท้องเหมือนจะเพิ่งเริ่มมาแทนไข้หวัด คุยกับเพื่อนๆที่ตั้งท้องด้วยกัน
เค๊าบอกมาว่า อาการแพ้ท้องจะเริ่มตอนใกล้ๆ 2 เดือน -0-

ถ้านับตามปฏิทินตั้งครรภ์ (นับตั้งแต่วันแรก ของการมี ปจด. เดือนสุดท้าย)
สัปดาห์นี้ของเราก็จะเข้า สัปดาห์ที่ 7 แล้ว

สัปดาห์ก่อน คลื่นไส้อาเจียน แต่ทานข้าวอิ่มก็หาย เลยคิดว่าจะเป็นเพราะหิว

แต่วันนี้ไม่ใช่  คลื่นไส้อาเจียน ช่วงเช้า ถึงจะทานข้าวเช้าอิ่มแล้ว ก็ยังเป็น... T T


ไปเสริทหาข้อมูลในเน็ท เกี่ยวกับอาการแพ้ท้อง

อาการแพ้ท้องจะคงอยู่เป็นระยะเวลานานเท่าใด
อาการแพ้ท้อง มักแตกต่างกันไปในแต่ละคน คุณแม่บางท่าน อาจมีอาการคลื่นไส้หรือรู้สึกไม่สบาย โดยมักจะเกิดขึ้นหลังจากตั้งครรภ์ได้สัก 2-3 สัปดาห์ แต่บางท่านก็มีอาการเพียงแค่ไม่กี่วันหลังตั้งครรภ์ ถ้าโชคดี คุณอาจไม่มีอาการแพ้ท้องเลยก็ได้ และการแพ้ท้องอาจเกิดขึ้นเวลาใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นช่วงเช้าเสมอไป

โดยส่วนใหญ่แล้ว อาการแพ้ท้อง จะ หมดไปในช่วงเดือนที่ 3 ของการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม อาการคลื่นไส้อาเจียนอาจเกิดขึ้นได้อีกตลอดช่วงตั้งครรภ์ เพียงแค่ได้กลิ่นบางอย่างที่ชวนให้คลื่นเหียนอาเจียน และแน่นอนว่ากลิ่นที่ชวนให้รู้สึกคลื่นเหียนอาเจียนก็แตกต่างกันไปในแต่ละคน


วิธีการรักษาอาการแพ้ท้องที่ใช้ได้ผลมี ดังนี้

  • รับ ประทานของขบเคี้ยวง่ายๆ และไม่หวานมากทันทีที่คุณตื่นนอน เช่น บิสกิตหรือขนมปังกรอบจะช่วยได้อย่างมาก จากนั้น ให้นอนพักอีก 20-30 นาที ก่อนลุกออกจากเตียง
  • ในช่วงที่เหลือระหว่างวัน พยายามรับประทานครั้งละน้อยๆ แต่รับประทานบ่อยๆ ทานอะไรสักหน่อย ดีกว่าไม่ได้ทานอะไรเลยหรือซื้อของขบเคี้ยวมาเก็บไว้ เช่น ขนมปังกรอบหรือโยเกิร์ตไว้รับประทานเวลาหิว
  • อาหารที่มีโปรตีนหรือ คาร์โบไฮเดรตสูงสามารถช่วยป้องกันอาการคลื่นไส้อาเจียนได้ เพราะฉะนั้น พยายามรับประทานอาหารทั้งสองชนิดนี้ร่วมกัน เช่น รับประทานไข่สุกกับขนมปังปิ้ง
  • ดื่มน้ำมากๆ ไม่ว่าจะเป็นเปล่า น้ำผลไม้ นม ชาผลไม้ น้ำอะไรก็ตามที่คุณสามารถดื่มได้ น้ำขิงหรือชาขิงจะช่วยให้อาการคลื่นไส้อาเจียนลดลงและทำให้หายจากอาการแพ้ ท้องได้ ที่สำคัญ อย่าลืมหาเวลาผ่อนคลายเพื่อกำจัดความเครียดที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน การพูดคุยกับว่าที่คุณแม่คนอื่นๆ ที่มีอาการแพ้ท้องเช่นเดียวกันก็สามารถช่วยผ่อนคลายได้